มีการนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างต่างๆ กัน ไม่ว่าจะนำมาทำชาใบเตย สมุนไพร ใบบัวหลวง
ข้าวหมกใบบัวหรือ ข้าวห่อใบบัว หรือตัดมาแช่น้ำ
ลอยน้ำในบ่อหรือสระที่อยู่ในร่มก็ดูเท่เก๋ไม่เบาค่ะ
หรือจะนำใบมาเป็นของกิ๊ฟช็อบส่งเข้าร้าน โมเดิร์นเทรด ก็ได้ราคาดี
แม้กระทั่งนำมาจัดบุธร้านอาหาร หรือนำมาลองจานหรือถาดอาหาร อย่างเช่น
งานบุฟเฟ่ คอคเทล ต่างๆ บางคนคิดต่อยอดทางธุรกิจ นำไปเป็นเครื่องตกแต่งบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นพื้นนาฬิกา สมุดพก ไดอารี่ โต๊ะทำงาน เป็นต้น ใบบัว
มีสารอัลคาลอยด์หลายชนิด
ซึ่งเราสามารถนำมาปรุงเป็นยาได้หลายตำหรับยาเลยทีเดียวค่ะ
และมีสรรพคุณทางยามากมายเช่นเดียวกัน เช่น ใบบัวมีประโยชน์ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เราคงมองข้ามไปและคิดว่าบัวก็แค่เป็นพืชและมีแค่ดอกไม้ชนิดหนึ่งที่มีแต่ความสวยงาม
ไม่มีประโยชน์อะไรมากมาย แต่เมื่อเราได้ศึกษาถึงคุณสมบัติต่างๆ
และสรรพคุณทางยาที่มีอยู่ในใบบัวแล้ว เราต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทันที
เพราะใบบัวนั้นจัดได้ว่าเป็นสมุนไพรชั้นดีเลยทีเดียว
ถ้าในอนาคตมีการนำสารสกัดจากใบบัวมาเป็นส่วนผสมของอาหารเสริม
หรือยาปฏิชีวนะในรูปแคปซูล
ซึ่งก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับทุกคน เพราะรับประทานได้ง่ายและ
สะดวก เมื่อเห็นถึงประโยชน์เช่นนี้แล้ว
เราก็ควรจะปลูกและขยายพันธุ์บัวให้มากๆ เพื่อบัวจะได้อยู่คู่สังคมไทยไปนานๆ
และประเทศไทยจะได้มีพืชสมุนไพรชั้นดีไว้รักษาโรคตลอดไป
เพื่อประชาชนชาวไทยจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สมบูรณ์
ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บกันทุกคนค่ะ ไม่สบายครั้งใด อย่าลืมหาใบ ดอก ราก
มาทำเป็น สมุนไพรใบบัวหลวง
ใบ- ใบบัว มีสารอัลคาลอยด์หลายชนิด ซึ่งสามารถปรุงเป็นยาได้หลายตำหรับ และมีสรรพคุณทางยาดังนี้
- ลดความดันโลหิตสูง ใบสด หรือแห้งหั่นเป็นฝอยต้มกับน้ำพอท่วมจนเดือด 10-15
นาที ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 20 วัน
แล้วตรวจวัดความดันโลหิตเป็นระยะพร้อมทั้งสังเกตอาการ ได้แก่ อาการปวดศีรษะ
ปวดท้ายทอย เวียนศีรษะ มึนงง
ถ้าดื่มแล้วความดันโลหิตลดลงก็ต้องหมั่นตรวจวัดความดันโลหิตอย่างน้อยเดือน
ละ 2-3 ครั้ง พร้อมทั้งสังเกตอาการดังกล่าว ถ้ามีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์
- ระงับอาการหวัด และช่วยลดเสมหะ ในสมัยโบราณได้มีการนำใบบัวมาหั่นเป็นฝอยผึ่งแดดให้แห้งทำเป็นมวนสูบบรรเทาอาการหวัดคัดจมูก