- โรคใบจุด
จะระบาดมากในช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่อากาศชื้น
มันเกิดกับบัวที่เจริญเติบโตเต็มที่หรือใบแก่
ซึ่งอาการของโรคนี้จะเป็นแผลหรือมีจุดวงกลมสีเหลืองและเมื่อแผลขยายกว้างจะ
เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและแห้งโดยจะมีกลุ่มเชื้อราสีดำเป็นกระจุก
สามารถแก้ไขได้โดยการเด็ดใบทิ้งหรือฉีดพ่นด้วยสารเคมีป้องกันเชื้อรา
- โรครากเน่า
มันเกิดกับบัวกลุ่มอุบลชาติและบัวกระด้ง
โดยเกิดจากบริเวณที่ปลูกมีมูลสัตว์ที่ยังเน่าเปื่อยไม่หมดหรือปุ๋ยที่ใช้จับ
ตัวกันเป็นก้อนซึ่งโรคนี้จะส่งผลให้หัว เหง้า โคนต้น
และบัวแคระแกรนและตายลง
สามารถป้องกันได้โดยเมื้อสังเกตเห็นอาการควรรีบนำบัวออกมาตัดส่วนที่เน่า
ทิ้งไป
เปลี่ยนดินมาปลูกใหม่หรือเก็บต้นดินบริเวณที่เป็นโรคทำลายทิ้งเสียเลี่ยงไป
ปลูกบัวชนิดอื่นแทน
- เพลี้ย จะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
เพลี้ยไฟ
เกิดบัวใบบัวที่อ่อน
โดยจะทำให้ใบไม่คลี่ซึ่งจะเข้าทำลายที่ด้านหลังใบโดยมีรอยช้ำเป็นสีชมพู
เรื่อๆ ต่อมาจะแห้งและดำ
แต่ถ้าเพลี้ยไฟเข้าทำลายที่ดอกและก้านดอกจะทำให้ดอกที่ตูมอยู่เหี่ยวและก้าน
แห้งเป็นสีดำก้านดอกแห้งเป็นสีน้ำตาลและหักง่าย
เพลี้ยอ่อน
ลักษณะตัวเล็กๆสีน้ำตาลดูดกินน้ำเลี้ยงบริเวณโคนก้านดอกก้านใบหรือใต้และบน
ใบอ่อนทำให้ดอกมีใบขนาดเล็กสีเหลืองซีด แห้งตายได้ในที่สุด
- หนอน จะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
หนอนพับใบ
เป็นศัตรูพืชที่สำคัญของบัวสกุลอุบลชาติซึ่งสาเหตุจะเกิดจาก
สีเสื้อกลางคืนมาวางไข่บนใบ
เมื่อฟักตัวเป็นหนอนจะกัดกินและดูดน้ำเลี้ยงไปจนโตและกัดใบให้พับและทับตัว
ไปเองเพื่อป้องกันศัตรูเช่น นก เราสามารถกำจัดหนอนชนิดนี้ได้ด้วยบี้ทำลาย
หนอนกระทู้ หนอนชอนใบ
เป็นศัตรูที่สำคัญของบัวหลวงรองจากเพลี้ยไฟโดยเฉพาะหนอนกระทู้กินใบโกรนทั้ง
ต้นจะเกิดในช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวซึ่งเป็นระยะที่บัวชะงักการเจริญเติบโต
ด้วย เราสามารถแก้ไขได้โดยตัดใบทิ้งทำลายหมดเพื่อตัดวงโคจรเชื้อหนอน
รอให้แตกใบใหม่และออกดอกใหม่
- หอย และ ปู
หอยและปูนั้นเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์กับบัวเพราะถ้าน้ำเสียหอยจะลอยหรือเกาะ
ตามผนังภาชนะบริเวณผิวน้ำเพื่อจะหาอากาศหายใจ
แสดงว่าออกซิเจนในน้ำมีไม่เพียงพอ แต่หอยประเภท หอยขม หอยโข่ง หอยเชอรี่
ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดน้ำเลี้ยงจากใบอ่อนและกัดกินใบบัว
ซึ่งการกำจัดนั้นเราสามารถทำได้โดยการจับทำลายทิ้งทั้งเป็นตัวอ่อนและไข่หอย
การปราบหอยในที่บ่อบัว คือมั่นเก็บออก
แต่ถ้าหากว่าปลูกในภาชนะที่มีขนาดใหญ่มาก
ไม่สะดวกในการเก็บควรจะเลี้ยงปลาช่อนในบ่อเพื่อช่วยกินตัวอ่อนของหอยและปู
- วัชพืช เป็นปัญหา
สำคัญมากกับการปลูกบัวในบ่อดิน
โดยเฉพาะสาหร่ายหางกระรอกและสาหร่ายวุ้นปราบยากที่สุดเพราะเปราะ
เมื่อถูกถอนมันจะขาดง่ายและลื่นส่วนที่ขาดจะลอยไปและงอกต่อที่อื่นได้
ส่วนสาหร่ายฝอยเก็บปราบง่ายที่สุดเพราะไม่ค่อยขาดถอน
หรือเก็บติดมือออกมาได้ทั้งกระจุกแต่มักจะพ้นโคนบัวแน่นจนยอดบัวเจริญขึ้นมา
ได้
จะเห็นได้ว่าการที่เราจะปลูกบัวนั้นเราต้องมีเวลาที่จะดูแลรักษาบัวเพราะบัว
นั้นจะมีโรคต่างๆเกิดขึ้นได้ง่ายหากไม่มีการดูแลรักษาที่ดี
เราจะต้องมีการสังเกตบ่อบัวของเราอยู่เสมอเพื่อที่จะคอยระวังโรคต่างๆเพื่อ
ให้บัวของเรามีความสวยงามสมบูรณ์แบบนั้นเอง
แต่หากเรานั้นต้องที่จะเลี้ยงสัตว์น้ำใน
อ่องบัวของเรานั้นเราก็ควรที่จะเลี้ยงสัตว์น้ำที่กินเนื้อเพราะจะได้ช่วย
กำจัดศัตรูพืชของบัวได้ เช่น ปลาห่างนกยูง ปลาปักเป้า ปลาสอด ปลาหมอสี
ปลากระดี่ ปลาซิว ปลากัด
ซึ่งเราควรนำมาเลี้ยงเมื่อต้นบัวมีความแข็งแรงโตเต็มที่ หรือมีปริมาณมากพอ